ชาวกรุ๊ปเลือดโอ เรียกได้ว่าเป็นบรรพบุรุษแรกเริ่มของมนุษย์ การดำรงชีวิตของมนุษย์ยุคนี้ต้องอาศัยการล่าสัตว์เป็นอาหาร ชาวกรุ๊ปเลือดโอจึงนับว่าเป็นกลุ่มนายพราน นักล่าสัตว์ และนักรบ
เนื่องจากบรรพบุรุษของชาวกรุ๊ปเลือดโอเป็นนักล่าสัตว์ ซึ่งสืบสายเลือดต่อเนื่องกันมา จึงทำให้ชาวกรุ๊ปเลือดโอเป็นบุคคลที่มีความกล้าหาญ มีสัญชาตญาณความเป็นผู้นำ มีความมั่นใจในตนเองสูง มีความทะเยอทะยาน เป็นคนที่ชอบเข้าสังคม ชอบเป็นจุดสนใจของผู้คนและบุคคลรอบข้าง เพื่อนฝูงเองก็ให้ความสำคัญและรักใคร่ชาวกรุ๊ปเลือดโออยู่ไม่น้อย เพราะด้วยความที่เป็นชาวกรุ๊ปเลือดโอเป็นคนให้ความสำคัญกับทุกคนที่อยู่รอบข้าง และการที่มีความคิดสร้างสรรค์ ชอบทำสิ่งแปลกใหม่อยู่เสมอ จึงทำให้เป็นที่นิยมชมชอบของบุคคลทั่วไป ชาวกรุ๊ปเลือดโอมักจะใช้ความคิดหรือตัดสินใจบนพื้นฐานความจริงมากกว่าจะใช้จินตนาการ
ข้อเสียสำหรับชาวกรุ๊ปเลือดโอคือ ชอบแสดงท่าทางหยิ่งยโส บางครั้งภูมิใจและให้ความสำคัญกับตนเองมากจนเกินไป มีความก้าวร้าวแข็งกระด้าง อีกทั้งมีนิสัยจับจด
บุคคลสำคัญที่มีกรุ๊ปเลือดโอ ได้แก่ พระราชินีอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษ, โรนัลด์ เรแกน, จอห์น เลนนอน, เอลวิส เพรสลีย์, พอล นิวแมน, เจอร์ราด ฟอร์ด, มิคาเอล โกบาชอฟ เป็นต้น
สุขภาพร่างกายทั่วไป
ผู้ที่มีกรุ๊ปเลือดโอส่วนใหญ่มักจะมีรูปร่างผอมบาง และมีกล้ามเนื้อแข็งแรงคล้ายกับนักกีฬา เพราะมีระบบเมตาบอลิซึมที่ทำงานดีทีประสิทธิภาพ ระบบการย่อยอาหารทำงานดี มีกรดในกระเพาสูงเหมาะสำหรับการย่อยเนื้อสัตว์ แต่ก็มีคนกรุ๊ปเลือดโอบางคนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน เพราะเนื่องจากรับประทานอาหารที่ไม่ตรงตามกรุ๊ปเลือด เน้นการรับประทานอาหารจำพวกแป้งมากเกินไป ทำให้ประสบปัญหาในเรื่องของน้ำหนัก และระดับน้ำตาลในเลือดสูงหรือโรคเบาหวาน เป็นต้น
ชาวกรุ๊ปเลือดโอมักจะมีปัญหาสุขภาพในเรื่องของต่อมไทรอยด์ที่ผลิตฮอร์โมนมากหรือน้อยเกินไป ซึ่งทำให้ระบบเมตาบอลิซึม (ระบบการเผาผลาญพลังงาน) ทำงานไม่สมดุลกัน เป็นเหตุทำให้น้ำหนักน้อยเกินมาตรฐานหรือน้ำหนักเกินมาตรฐาน ดังนั้นการรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือดจึงช่วยลดปัญหาการผลิตฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์ได้
สำหรับชาวกรุ๊ปเลือดโอ เมื่อร่างกายได้รับสารพิษหรือรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะกับกรุ๊ปเลือด อาจทำให้ระบบย่อยอาหารไม่ทำงาน และส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติแก่ร่างกาย ซึ่งคุณสามารถสังเกตด้วยตนเองดังนี้ ลมหายใจมีกลิ่น เกิดอาการบวมน้ำ ทั้งๆ ที่รับประทานอาหารไม่มาก มีปัญหาเรื่องน้ำหนัก เกิดการอักเสบที่ข้อต่อกระดูก ท้องอืดท้องเฟ้อ ผิวแห้ง
อาการเหล่านี้เป็นอาการเบื้องต้นที่บ่งชี้ว่าสุขภาพร่างกายของคุณเริ่มจะมีปัญหา วิธีการแก้ไขสามารถทำได้ง่ายๆ คือรับประทานอาหารที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือดโอจะช่วยทำให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ดี เลือดสามารถนำอาหารไปหล่อเลี้ยงและป้องกันโรคภัยให้แก่ร่างกายของคุณ
โภชนาการสำหรับชาวกรุ๊ปเลือดโอ
เนื่องด้วยชาวกรุ๊ปเลือดโอสืบสายเลือดมาจากนักล่าสัตว์ จึงทำให้มีกรดในกระเพาะสูงซึ่งเหมาะแก่การย่อยโปรตีนจากเนื้อสัตว์ กรดไฮโดรคลอริกที่มีสูงอยู่ในกระเพาะของคนกรุ๊ปเลือดโอนั้น การรับประทานเนื้อแดงจะช่วยซับกรดนี้ด้วย ทำให้ย่อยอาหารได้ง่ายและอิ่มเร็ว สำหรับชาวกรุ๊ปเลือดโอที่เลือกรับประทานอาหารมังสวิรัติหรืออาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตแทนการรับประทานโปรตีนจากเนื้อสัตว์ส่งผลทำให้ระบบการย่อยทำงานได้ไม่ดี ระบบเมตาบอลิซึมทำงานช้า ทำให้น้ำหนักขึ้นและประสบปัญหาเรื่องซูลินในเลือด
โภชนาการอาหารสำหรับชาวกรุ๊ปเลือดโอนั้น สามารถแบ่งแยกออกเป็นหมวดหมู่ได้ดังนี้
1. หมวดแป้งและคาร์โบไฮเดรต
อาหารที่เหมาะสม : ขนมปังโฮลวีต
อาหารที่รับประทานได้บางโอกาส : พาสต้าสกัดอาร์ติโช้ก ขนมปังที่ไม่มีกลูเต็น ข้าวฟ่าง โอ๊ตมีล แป้งจากข้าวโอ๊ต รำข้าวโอ๊ต ข้าวขาว ข้าวกล้อง ขนมปังข้าวไรย์ น้ำนมข้าวยาคู บะหมี่โซบะ ขนมปังจากแป้งถั่วเหลือง มันสำปะหลัง
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง : ผลิตภัณฑ์โฮลวีตทุกประเภทที่มีเล็กตินหรือกลูเต็น (ซึ่งไม่เหมาะกับเลือดและระบบการย่อย) นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงข้าวโพดคั่ว พาสต้าที่ทำจากผักโขม ขนมปังข้าวสาลี แป้งข้าวโพด ข้าวบาร์เล่ย์ คอร์นเฟลก อิงลิชมัฟฟิน
2. หมวดเนื้อสัตว์
อาหารที่เหมาะสม : เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวาง ตับอ่อนของวัวหรือแกะ เครื่องในสัตว์
อาหารที่รับประทานได้บางโอกาส : เนื้อไก่ ไก่งวง เป็ด ห่าน เนื้อแพะ เนื้อกระต่าย เนื้อนกกระจอกเทศ เนื้อนกกระทา นกพิราบ
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง : ผลิตภัณฑ์จากเนื้อหมูและเนื้อที่ผ่านกระบวนการผลิต เช่น แฮม เบคอน (ซึ่งมีสารไนเตรต อาจเป็นพิษต่อคุณได้
3. หมวดอาหารทะเล
อาหารที่เหมาะสม : ปลาหางเหลือง ปลากะพงแดง ปลาเรนโบว์เทราด์ ปลาสวอร์ด ปลาเสือ ปลาลิ้นหมา
อาหารที่รับประทานได้บางโอกาส : ปลาแอนโชวี่ ปลาฉลาม ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน ปลาเทราต์ทะเล ปลาแซลมอน หอยนางรม หอยตลับ กุ้ง ปู ลอบสเตอร์ ปลาเฮอร์ริ่ง ปลาไหล ปลากระบอก ปลาจวด ปลาอินทรี ปลาจะละเม็ด
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง : ปลาน้ำดอกไม้ ปลาดุก ปลาหมึกยักษ์ ปลาหมึกกล้วย กบ คาเวียร์ หอยสังข์
4. หมวดไขมัน
อาหารที่เหมาะสม : น้ำมันมะกอก น้ำมันลินซีด (เมล็ดสกัดจากต้นเฟลกซ์)
อาหารที่รับประทานได้บางโอกาส : น้ำมันจากอัลมอนด์ น้ำมันคาโนลา น้ำมันตับปลา น้ำมันสกัดจากถั่ววอลนัต น้ำมันงา
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง : น้ำมันมะพร้าว น้ำมันละหุ่ง น้ำมันสกัดจากข้าวโพด น้ำมันสกัดจากถั่วลิสง น้ำมันเมล็ดทานตะวัน น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันวีตเจิร์ม น้ำมันดอกคำฝอย อีฟนิ่งพริมโรส
5. หมวดนม เนย และไข่
อาหารที่เหมาะสม : ไม่มี เนื่องจาก นม เนย และไข่ จะชะลอการทำงานของระบบเมตาบอลิซึมและไม่มีประโยชน์ต่อกรุ๊ปเลือดโอมาก ทั้งนี้เพื่อป้องกันการขาดแคลเซียม ควรเลือกรับประทานน้ำนมถั่วเหลือง หรือน้ำนมจากข้าวแทน
อาหารที่รับประทานได้บางโอกาส : ไข่ไก่ ไข่เป็ด น้ำนมแพะ ชีสจากนมแพะ เนย น้ำนมข้าวยาคู นมถั่วเหลือง
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง : ไอศกรีม นมวัว เชอร์เบต ซาวครีม เนยแข็งสวิส เนยแข็งเชดดาร์ ครีมชีส เนยแข็งอีดัม ชีสริคอตตา
6. หมวดผักและผลไม้
อาหารที่เหมาะสม : บร็อกโคลี คะน้า สาหร่าย สาหร่ายทะเล ผักกาดหอม ผักกาดแก้ว กระเจี๊ยบ หอมหัวใหญ่ พาสลีย์ ฟักทอง กล้วย ฝรั่ง พรุน พลัม สับปะรด มะม่วง เชอร์รี บลูเบอร์รี
อาหารที่รับประทานได้บางโอกาส : ซูกินิ วอเตอร์เครส แห้ว มะเขือเทศ มะเขือยาว ผักชี แครอต ผักกาด กะหล่ำดาว หน่อไม้ฝรั่ง มะกอกเขียว พาสลีย์ หอมแดง กระเทียม พริกไทย แตงโม
สตรอว์เบอร์รี มะเฟือง มะนาว เลมอน ส้มโอเทศ แอพริคอต แครนเบอร์รี ลูกเกด อินทผลัม มะละกอ พีช แพร่ ราสป์เบอร์รี ทับทิม องุ่น แอปเปิล
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง : แตงกวา มะกอกดำ ข้าวโพด อะโวคาโด กะหล่ำ ถั่วอัลฟัลฟา เห็ดหอม มันเทศ มันเหลือง ลูกสาลี่จีน มะระ แบล็กเบอร์รี กะทิ ส้ม กีวี แคนตาลูป
7. หมวดถั่วและธัญพืช
อาหารที่เหมาะสม : วอลนัต เมล็ดฟักทอง เมล็ดแฟลกซ์ ถั่วแบล็กอาย (Black-eyes Pea)
อาหารที่รับประทานได้บางโอกาส : อัลมอนด์ งา เมล็ดคำฝอย ถั่วดำ เต้าหู้ ถั่วเหลือง ถั่วแดง ถั่วงอก ถั่วลันเตา ถั่วดำ
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง : ถั่วบลาซิล ถั่วลิสง เมล็ดทานตะวัน เมล็ดปอปปี้ ถั่วพิทาชิโอ เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วเนวี่ ถั่วเลนทิล ถั่วปินโตะ
8. หมวดเครื่องเทศ
อาหารที่เหมาะสม : พาสลีย์ ขิง ขมิ้น พริกขี้หนู ผงกะหรี่
อาหารที่รับประทานได้บางโอกาส : ใบกระวาน กระเทียม ผักชี กานพลู ชะเอม อบเชย ต้นหอม พริกป่น กะเพรา โหระพา มะกรูด สะระแหน่ โรสแมรี เสจ เกลือทะเล ซอสถั่วเหลือง น้ำตาลทรายขาว น้ำตาลทรายแดง ไธม์ แอปเปิลไซเดอร์ มัสตาร์ด มิโซะ ออริกาโน น้ำเชื่อมโมลาส
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง : พริกไทยเม็ด ผงชูรส น้ำส้มสายชู แป้งข้าวโพด
9. หมวดเครื่องดื่ม
เครื่องดื่มที่เหมาะสม : ชาเขียว น้ำแร่ธรรมชาติ ชาขิง น้ำขิง ชาเปปเปอร์มินต์
เครื่องดื่มที่ดื่มได้บางโอกาส : ไวน์แดง ชาตังกุย ซาคา โมมายล์ โสม
เครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยง : กาแฟ เบียร์ ชาดำ ไวน์ขาว น้ำโซดา เหล้า แชมเปญ วิสกี้ น้ำว่านหางจระเข้ ชาสกัดจากใบสตรอว์เบอร์รี
หมายเหตุ
อาหารที่เหมาะสม หมายถึง อาหารที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือดรับประทานได้บ่อยครั้ง
อาหารที่รับประทานได้บางโอกาส หมายถึง อาหารที่รับประทานได้ 2-3 ครั้ง ต่อสัปดาห์
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง หมายถึง อาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อกรุ๊ปเลือด แต่สามารถรับประทานได้นานๆ ครั้ง หรือ 1-2 ครั้งต่อเดือน
การควบคุมดูแลน้ำหนักของคนกรุ๊ปเลือดโอ
หากคุณมีกรุ๊ปเลือดโอและพบว่าตนเองมีน้ำหนักไม่ได้มาตรฐานรูปร่างไม่ได้สัดส่วน นั่นอาจมีสาเหตุมาจากคุณยังไม่ได้รับประทานอาหารตามที่แนะนำสำหรับกรุ๊ปเลือดโอ ทำให้ระบบการทำงานของร่างกายโดยเฉพาะระบบการย่อยอาหารและระบบเมตาบอลิซึมทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร
คุณอาจจะเน้นการรับประทานอาหารจำพวกแป้งมากจนเกินไปหรือเน้นการรับประทานอาหารมังสวิรัติแทนการรับประทานอาหารโปรตีนสูงจากเนื้อสัตว์ ทำให้ระบบการย่อยดูดซึมอาหารได้น้อยทำให้หิวบ่อย ประกอบกับระบบเมตาบอลิซึมทำงานช้าลง และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคุณจึงลดน้ำหนักไม่ลงเสียเลย
วิธีการควบคุมน้ำหนักและคืนรูปร่างให้สวยดังเดิมนั้น ชาวกรุ๊ปเลือดโอสามารถลดน้ำหนักด้วยแผนการ 7 วิธีการเพื่อควบคุมน้ำหนักดังต่อไปนี้
1. เน้นการไดเอตแบบโปรตีนสูง
ผู้ที่มีกรุ๊ปเลือดโอ การรับประทานโปรตีนจากเนื้อสัตว์เป็นวิธีการลดน้ำหนักที่ได้ผลที่สุด เนื่องจากคุณมีกรดในกระเพาสูงเพื่อย่อยอาหารจำพวกเนื้อสัตว์โดยเฉพาะ ทำให้ระบบการย่อยดูดซึมอาหารได้ดี ทำให้อิ่มนาน และทำให้ระบบเมตาบอลิซึมเปลี่ยนอาหารเป็นพลังงานได้เร็วขึ้น แต่ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ที่ติดมันเพราะอาจจะทำให้เกิดคอเลสเตอรอลหรือไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้
2. ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว
การดื่มน้ำเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดน้ำหนักได้ดี และไม่จำเป็นต้องดื่มเพียงแค่น้ำเปล่าเท่านั้น คุณสามารถดื่มน้ำที่เป็นประโยชน์ต่อกรุ๊ปเลือดโออื่นๆ ได้ เช่น ชาเขียว น้ำแร่ น้ำขิง การดื่มน้ำวันละ 8 แก้วต่อวัน ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเมตาบอลิซึมและช่วยป้องกันร่างกายขาดน้ำ สำหรับผู้ที่มีปัญหาอาการบวมน้ำควรปรึกษาแพทย์ก่อน
3. ลดปริมาณอาหารจำพวกแป้งและผลิตภัณฑ์นม
ผลจากการวิจัยการรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือดนั้นแสดงให้เห็นว่า ชาวกรุ๊ปเลือดโอมักจะประสบปัญหาเรื่องน้ำหนัก เพราะการบริโภคอาหารจำพวกแป้ง เช่น ขนมปังโฮลวีต และแป้งสาลีมากเกินไป ทำให้น้ำหนักลดลงยากเนื่องจากมีสารเล็กติน กลูเต็น เป็นตัวการทำให้น้ำหนักเพิ่ม ส่วนผลิตภัณฑ์นมก็ควรลดปริมาณลงเช่นกัน เนื่องจากขัดขวางการทำงานของระบบเมตาบอลิซึม
4. เพิ่มอาหารที่เอื้ออำนวยแก่การลดน้ำหนัก
อาหารที่ช่วยลดน้ำหนักได้ผลดีและลดได้เร็ว ได้แก่ สับปะรด ผลไม้ตระกูลเบอร์รี อาทิ แบล็กเบอร์รี แครนเบอร์รี ผักใบเขียวเข้ม เช่น บร็อกโคลี ผักคะน้า ผักโขม รวมถึงอาหารทะเล เช่น ปลากะพงแดง ปลากะพงขาว ปลาค็อด รวมถึงปลาที่มีกรดโอเมก้า 3 และเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อแกะ เป็นต้น
5. งดดื่มเครื่องดื่มกาเฟอีน แอลกอฮอล์
เครื่องดื่มประเภทกาเฟอีน แอลกอฮอล์ เนื่องจากพบว่าเครื่องดื่มเหล่านี้ทำให้การทำงานของระบบเมตาบอลิซึมช้าลง ทำให้น้ำหนักลดลงช้า อีกทั้งยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายเกิดอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลียง่าย และทำให้หิวบ่อย
6. รับประทานอาหารมื้อย่อยๆ
การรับประทานอาหารมื้อย่อยๆ นั้น เหมาะสมกับคนทุกกรุ๊ปเลือด เพราะการแบ่งมื้ออาหารเป็น 4-6 มื้อนั้นทำให้อิ่มท้องนานลดความหิว และทำให้การรับประทานอาหารในแต่ละมื้อลดปริมาณแคลอรีลง นักโภชนาการด้านอาหารแนะนำให้ผู้ที่กำลังลดน้ำหนักให้วิธีนี้ เพราะจะทำให้ลดน้ำหนักได้ผล
7. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายเป็นการกระตุ้นให้ระบบเมตาบอลิซึมทำงานเร็วขึ้น และทำให้เปลี่ยนไขมันเป็นกล้ามเนื้อ อีกทั้งยังทำให้ร่างกายแข็งแรง การออกกำลังกายสำหรับชาวกรุ๊ปเลือดโอนั้น ควรเน้นการออกกำลังกายแบบหนัก เช่น เต้นแอโรบิก วิ่ง ขี่จักรยาน เป็นต้น และควรจะออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง เพื่อให้ลดน้ำหนักได้เร็วและได้ผล
เมนูอาหารแนะนำสำหรับลดน้ำหนัก 7 วัน
ชาวกรุ๊ปเลือดโอที่ต้องการลดน้ำหนักให้ได้ผลและลดน้ำหนักได้เร็วนั้นทำได้ไม่ยาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอาหารที่คุณรับประทานหากอาหารเหมาะกับระบบการย่อยของคุณ และอาหารนั้นเปลี่ยนไปเป็นพลังงานได้เร็วด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อกรุ๊ปเลือด คุณก็จะลดน้ำหนักได้เร็วและลดน้ำหนักได้ผลระยะยาว อาหารที่ดีสำหรับการลดน้ำหนักควรประกอบด้วย
1. เนื้อสัตว์ไร้ไขมัน ควรรับประทานสัปดาห์ละ 5-6 ครั้ง
2. ผักใบเขียว ควรรับประทาน 2-3 ครั้งต่อวัน
3. ผลไม้ ควรรับประทาน 2-3 ครั้งต่อวัน
4. ไข่ไก่หรือไข่เป็ด 2-3 ฟองต่อสัปดาห์
5. โปรตีนจากเต้าหู้ ถั่วเหลือง ควรรับประทาน 5-6 ครั้งต่อสัปดาห์
6. ปลาที่มีประโยชน์ต่อกรุ๊ปเลือดโอ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
7. ธัญพืช ถั่ว ที่มีประโยชน์ต่อกรุ๊ปเลือด ควรรับประทาน 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์
8. ไขมันจากน้ำมันมะกอก 1 ครั้งต่อวัน
ตัวอย่างเมนูอาหารแนะนำสำหรับลดน้ำหนัก 7 วัน
วันที่ 1
เมนูอาหารเช้า | |||
ส้มโอเทศ | 1-2 | ผล | |
ไข่เจียวหน่อไม้ฝรั่ง | 1 | จาน | |
ลูกมะเดื่อฝรั่งอบแห้ง | 3-4 | ผล | |
เมนูอาหารกลางวัน | |||
ซีซาร์สลัด | 1 | จาน | |
น้ำสับปะรด | 1 | แก้ว | |
แอปเปิล | 1 | ผล | |
เมนูอาหารเย็น | |||
ไก่ทอดกระเทียมพริกไทย | 200 | กรัม | |
ข้าวกล้อง | 1 | ถ้วย | |
น้ำฝรั่ง | 1 | แก้ว | |
วันที่ 2
เมนูอาหารเช้า | |||
กล้วย | 1 | ผล | |
ข้าวต้มไก่ | 1 | ถ้วย | |
น้ำฝรั่ง | 1 | แก้ว | |
เมนูอาหารกลางวัน | |||
ยำปลาทู | 1 | จาน | |
ผัดบร็อกโคลี | 1 | ถ้วย | |
มะละกอสุก | 1-2 | ถ้วย | |
ชาเขียว | 1 | แก้ว | |
เมนูอาหารเย็น | |||
ปลากะพงย่าง | 500 | กรัม | |
ข้าวกล้อง | 1 | ถ้วย | |
ผักกาดแก้ว | 1 | ถ้วย | |
น้ำฝรั่ง | 1 | แก้ว | |
วันที่ 3
เมนูอาหารเช้า | |||
น้ำเปล่าผสมมะนาว | 1 | แก้ว | |
เชอร์รีหรือบลูเบอร์รี | 1-2 | ถ้วย | |
เมนูอาหารกลางวัน | |||
ผัดผักคะน้าไก่ราดข้าว | 1 | จาน | |
ฝรั่ง | 1 | ผล | |
ชาเขียว | 1 | แก้ว | |
เมนูอาหารเย็น | |||
สเต๊กแกะราดซอสส้ม | 1 | จาน | |
มะเขือเทศอบ | 2 | ผล | |
น้ำลูกพรุน | 1 | แก้ว | |
วันที่ 4
เมนูอาหารเช้า | |||
ขนมปังทาแยมราสป์เบอร์รี | 2 | แผ่น | |
ไข่ต้ม | 1 | ฟอง | |
น้ำองุ่น | 1 | แก้ว | |
เมนูอาหารกลางวัน | |||
บะหมี่ผัดเต้าหู้ | 1 | จาน | |
สับปะรด | 2-3 | ชิ้น | |
ชาเขียว | 1 | แก้ว | |
เมนูอาหารเย็น | |||
สลัดผลไม้ (เฉพาะผลไม้ที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือดโอ) | 1 | จาน | |
วันที่ 5
เมนูอาหารเช้า | |||
มัฟฟินบลูเบอร์รี | 1 | ชิ้น | |
แอปเปิล | 1 | ผล | |
น้ำขิง | 1 | แก้ว | |
เมนูอาหารกลางวัน | |||
สลัดเนื้อย่าง พร้อมผักสดเคียง | 1 | จาน | |
มะม่วงสุก | 2-3 | ชิ้น | |
ชาเขียว | 1 | แก้ว | |
เมนูอาหารเย็น | |||
ปลาแซลมอนอบ | 1 | ชิ้น | |
ฟักทอง บร็อกโคลี และมันเทศอบ | 1 | ถ้วย | |
น้ำฝรั่ง | 1 | แก้ว | |
วันที่ 6
เมนูอาหารเช้า | |||
ซุปฟักทอง | 1 | ถ้วย | |
โกโก้ร้อน | 1 | แก้ว | |
เมนูอาหารกลางวัน | |||
ข้าวสวย | 1-2 | ถ้วย | |
แกงเหลืองปักษ์ใต้ | 1 | ถ้วย | |
แตงโม | 3-4 | ชิ้น | |
ชาเขียว | 1 | แก้ว | |
เมนูอาหารเย็น | |||
สลัดไก่ราดซอสผักโขม | 1 | จาน | |
พีช | 1-2 | ถ้วย | |
น้ำฝรั่ง | 1 | แก้ว | |
วันที่ 7
เมนูอาหารเช้า | |||
แซนด์วิชปลาทูน่า | 1 | ชิ้น | |
น้ำสับปะรด | 1 | แก้ว | |
เมนูอาหารกลางวัน | |||
ซูชิไส้ปลาแซลมอน (ไส้หน่อไม้ฝรั่ง ไส้ไก่เทอริยากิ) | 5 | ชิ้น | |
ซุปมิโซะ | 1 | ถ้วย | |
ชาเขียว | 1 | แก้ว | |
เมนูอาหารเย็น | |||
สเต๊กเนื้อวัว | 1 | ชิ้น | |
ถั่วลันเตา แครอต และบร็อกโคลีลวก | 1 | ถ้วย | |
น้ำสับปะรด | 1 | แก้ว | |
ก่อนเริ่มต้นลดน้ำหนักวิธีที่จะทำให้เห็นผลดีที่สุด ควรจะต้องทำการล้างสารพิษ เพื่อทำความสะอาดสารพิษ ที่ตกค้างสะสมซึ่งจะคอยขัดขวางการทำงานของกระบวนการลดน้ำหนัก ทำให้ลดน้ำหนักได้ช้า และมักไม่ค่อยเห็นผล
การล้างสารพิษ ขอแนะนำให้ทำ 2 วันต่อเนื่องกันดังนี้
วันที่ 1 เลือกรับประทานผลไม้สด 1 อย่าง หรือผสมกันดังนี้ ฝรั่ง ชมพู่ สับปะรดไม่หวาน แตงไม่หวาน 3 มื้อ เช้า กลางวัน เย็น ปริมาณมื้อละ 1 จานขนาดกลาง
วันที่ 2 เลือกรับประทานผักที่เหมาะสมตามกรุ๊ปเลือดทั้งผักสด และผักต้มหรือลวก 3 มื้อ เช้า กลางวัน เย็นปริมาณมื้อละ 1 จานขนาดกลาง
แล้วจึงเริ่มลดน้ำหนักโดยรับประทานอาหารตามเมนูที่จัดมาให้นี้ พร้อมกับรับประทานยาสมุนไพรครั้งละ 2 แคปซูล หลังอาหารเช้า-กลางวัน-เย็น พร้อมน้ำสะอาด 1-2 แก้ว (ปรับจากการรับประทานหลังอาหารตามฉลาก เป็นรับประทานก่อนอาหาร ตามความเหมาะสม)
วิตามินและเกลือแร่เพื่อสุขภาพและความอ่อนเยาว์
การไดเอตของคนกรุ๊ปเลือดโอ ควรจะได้รับธาตุเหล็กและโปรตีนจากเนื้อสัตว์อย่างครบถ้วน ซึ่งโปรตีนมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อกล้ามเนื้อ ช่วยบำรุงรักษาเส้นผม เล็บ ซ่อมแซมผิวหนังช่วยในการผลิตฮอร์โมน เอนไซม์และแอนติบอดี้ ส่วนธาตุเหล็กมีส่วนสำคัญในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ป้องกันโรคโลหิตจาง
ถึงแม้ว่าคุณจะได้รับโปรตีนและธาตุเหล็กมาก ใช่ว่าคุณจะไม่ได้รับสารอาหารอื่นๆ เลย คุณยังได้รับวิตามินและเกลือแร่ที่สำคัญแต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณการบริโภคของคุณเอง ยกตัวอย่างเช่น คุณจะไม่ได้รับแคลเซียมจากนมวัว แต่คุณสามารถรับสารแคลเซียมจากปลาที่มีกระดูกอ่อน เช่น ปลาซาร์ดีน เป็นต้น
การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็น และนำสารอาหารเหล่านี้ไปหล่อเลี้ยงอวัยวะของร่างกายเพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรงและรักษาความอ่อนเยาว์ไว้ตราบนานเท่านาน จากการวิจัยการรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือดโอพบว่า วิตามินและเกลือแร่ที่มีประโยชน์ต่อกรุ๊ปเลือดโอ ได้แก่
วิตามินซี
ประโยชน์ : มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง แก่ก่อนวัย ช่วยผลิตคอลลาเจน ฮอร์โมนอะดรีนาลิน นอกจากนี้วิตามินซียังช่วยดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น
แหล่งอาหาร : บร็อกโคลี ผักโขม ส้มโอเทศ ตับสัตว์ กะหล่ำดาว คะน้า เลมอน
ปริมาณที่ควรรับประทาน : 250-500 มิลลิกรัมต่อวัน ทั้งในรูปวิตามินเสริมหรือจากแหล่งอาหาร
วิตามินบี6
ประโยชน์ : ทำงานร่วมกับวิตามินบี 9 (กรดโฟลิก) ช่วยผลิตเซลล์เม็ดเลือด ควบคุมระบบประสาทส่วนกลาง และช่วยเผาผลาญไขมัน
แหล่งอาหาร : ปลาซาร์ดีน เนื้อแดง ไข่ สาหร่ายทะเล ไก่ ไก่งวง
ปริมาณที่ควรรับประทาน : 500 ไมโครกรัมต่อวัน
กรดโฟลิก/วิตามินบี 9
ประโยชน์ : ทำงานร่วมกับวิตามินบี 12 ช่วยผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงในกระดูกอ่อน ป้องกันภาวะโลหิตจางจากการขาดกรดโฟลิก
แหล่งอาหาร : ถั่วหัวช้าง บร็อกโคลี ตับสัตว์ หน่อไม้ฝรั่ง
ปริมาณที่ควรรับประทาน : 500-600 ไมโครกรัมต่อวัน
วิตามินเค
ประโยชน์ : ช่วยป้องกันไม่ให้เส้นเลือดตีบ ช่วยระบบไหลเวียนโลหิต และสังเคราะห์โปรตีนในกระดูกเพื่อผลิตและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
แหล่งอาหาร : ชาเขียว กะหล่ำดาว ผักใบเขียวเข้ม บร็อกโคลี ถั่วเหลือง
ปริมาณที่ควรรับประทาน : 250-300 มิลลิกรัมต่อวัน (จากแหล่งอาหารเท่านั้น)
ซิลิกา
ประโยชน์ : ช่วยบำรุงกระดูก กล้ามเนื้อ เล็บผิว และผมให้แข็งแรง ช่วยรักษาความอ่อนเยาว์ ชะลอความแก่
แหล่งอาหาร : ข้าวกล้อง ถั่วเหลือง ผักใบเขียว
ปริมาณที่ควรรับประทาน : 350-500 มิลลิกรัมต่อวัน
แคลเซียม
ประโยชน์ : เป็นส่วนประกอบของฟันและกระดูก ช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตดี ควบคุมระบบประสาทส่วนกลาง
แหล่งอาหาร : สาหร่ายทะเล งา ปลาซาร์ดีนพร้อมก้าง เต้าหู้ พาสลีย์ ฟิกส์อบแห้ง เมล็ดทานตะวัน
ปริมาณที่ควรรับประทาน : 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
การออกกำลังกายสำหรับชาวกรุ๊ปเลือดโอ
สำหรับผู้ที่มีกรุ๊ปเลือดโอ เป็นกลุ่มคนที่รับประทานโปรตีนสูงจากสัตว์ การออกกำลังกายจึงเป็นแบบหนักมากกว่าคนที่มีกรุ๊ปเลือดอื่นๆ เพื่อให้ร่างกายได้เผาผลาญแคลอรี การออกกำลังแบบหนักนี้เหมาะสำหรับชาวกรุ๊ปเลือดโอ เพราะว่าคุณมีกระดูกที่แข็งแรงแต่ทั้งนี้ใช่ว่าคุณจะต้องออกกำลังกายจนเหนื่อยล้า นั่นเป็นวิธีออกกำลังกายที่ผิด การออกกำลังกายแบบหนักคือ การออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อและระยะเวลานาน ในขณะเดียวกันไม่ควรทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าและเหนื่อยหอบจนไม่สามารถพูดคุยกับคนอื่นได้ การออกกำลังกายที่หนักมากเกินไปอาจทำให้ระบบภูมิต้านทานร่างกายต่ำลง และทำให้กล้ามเนื้อฉีกขาดได้ ทุกครั้งที่คุณออกกำลังกาย ควรวอร์มร่างกายประมาณ 20-30 นาที แล้วจึงเลือกการออกกำลังกาย 1 ในการออกกำลังกายตามที่แนะนำ โดยใช้เวลาต่อครั้ง 30 นาที สัปดาห์ละ 3-4 ครั้งดังต่อไปนี้
ตัวอย่างการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับกรุ๊ปเลือดโอ
ประเภทการออกกำลังกาย | ระยะเวลา (นาที) |
ความถี่ (วัน/สัปดาห์) |
วิ่ง | 30-60 นาที | 3-4 |
ขี่จักรยาน | 30 นาที | 2-3 |
แอโรบิก | 40-60 นาที | 3-4 |
ศิลปะป้องกันตัว | 30-45 นาที | 3 |
เดินบนลู่ (Treadmill) | 30 นาที | 3 |
หัตถโยคะ | 30-45 นาที | 2-3 |
เล่นกีฬา เช่น เทนนิส ว่ายน้ำ | 1 ชั่วโมง | 2-3 |
การดูแลสุขภาพจิตใจ
คุณอาจจะคุ้นหูกับคำกล่าวที่ว่า “ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว” นั่นหมายถึง จิตใจสามารถควบคุมร่างกายให้ทำตามที่จิตใจสั่ง เมื่อจิตใจอ่อนล้าหมดกำลังใจ ก็จะส่งผลให้ร่างกายเมื่อยล้าและเพลียตามไปด้วย บางคนถูกระทบกระเทือนจิตใจหรือเครียดมากอาจจะทำให้ร่างกายเจ็บป่วยได้
ชาวกรุ๊ปเลือดโอแม้ว่าจะสามารถควบคุมอารมณ์และความเครียดได้ดี แต่บางสถานการณ์ก็ทำให้คุณเองสับสนและเกิดความเครียดได้ง่ายเช่นกัน เป็นเพราะคุณชอบแข่งขันกับเวลา มีนิสัยเร่งรีบ พูดเร็วและคิดเร็ว ทำงาน 2 อย่างพร้อมๆ กันในเวลาเดียวกัน นิสัยเหล่านี้ทำให้คุณยุ่งอยู่กับตัวเองได้ทั้งวัน จนผลสุดท้ายเกิดความเครียดและกดดันตัวเอง
วิธีการที่จะช่วยลดความเครียดที่ดีที่สุดสำหรับชาวกรุ๊ปเลือดโอ คือ
· ทำงานให้สำเร็จลุล่วงที่ละอย่าง อย่าทำงาน 2 อย่างในเวลาเดียวกัน
· อย่านำปัญหาจากที่ทำงานเข้าบ้าน หรือนำปัญหาที่บ้านไปคิดที่ทำงาน
· ระบายความเครียดกับคนใกล้ชิด หรือคนที่คุณไว้ใจ
· ขจัดความเครียดด้วยการออกกำลังกาย หรือเดินเล่นในสวนสาธารณะ
· นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ลดอาหารประเภทน้ำตาล เกลือ อาหารไขมันสูง และเครื่องดื่มผสมกาเฟอีน แอลกอฮอล์ งดการสูบบุหรี่
· รับประทานวิตามินบีรวม เพื่อช่วยรักษาฮอร์โมนให้สมดุลและช่วยลดความเครียด
ขอขอบคุณ ที่มาของข้อมูล โดย http://www.slim-detox.net/