กรุ๊ปเลือดเอ สืบทอดสายเลือดมาจากกลุ่มมนุษย์ที่เริ่มตั้งรกรากถิ่นฐาน เรียนรู้การปลูกพืชกสิกรรม
ชาวกรุ๊ปเลือดเอ จึงถูกขนานนามว่า ชาวนา ชาวไร่
ชาวกรุ๊ปเลือดเอเป็นนักอนุรักษ์นิยม เป็นคนสงบเสงี่ยม พูดน้อย มีความอดทนอดกลั้นเป็นเลิศ
แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนมีมาตรฐานในชีวิตสูง เป็นคนที่ชอบทำอะไรก็ตามจะต้องลงตัวและสมบูรณ์แบบทุกอย่าง
ซึ่งลักษณะนิสัยเช่นนี้จึงทำให้คนกรุ๊ปเลือดเอเป็นคนซีเรียส และเครียดได้ง่ายกว่ากรุ๊ปเลือดอื่นๆ
ชาวกรุ๊ปเลือดเอเป็นคนที่นับได้ว่ามีสายเลือดของศิลปินมากกว่ากรุ๊ปเลือดใด
พวกเขามีความคิดสร้างสรรค์อยู่เสมอ และมีความอ่อนไหวทางอารมณ์ได้ง่าย ขี้อาย มีความซื่อสัตย์และจริงใจ
และถึงแม้ว่าจะมีอารมณ์ศิลปินอย่างไร แต่เรื่องเวลาแล้วชาวกรุ๊ปเลือดเอรักษาเวลาได้ดี ตรงต่อเวลา
ข้อเสียสำหรับชาวกรุ๊ปเลือดเอคือ เป็นคนที่หัวรั้นดื้อดึง แข็งกระด้าง และยังเป็นคนที่หมกมุ่นอยู่กับตัวเองมาก
ครุ่นคิดแต่เรื่องของตนเอง ขาดความมั่นใจในตนเอง จนบางครั้งถูกผู้อื่นครอบงำ ความคิดได้ง่ายๆ
และเป็นคนที่เครียดง่าย เนื่องจากทำอะไรต้องถูกต้องตามแผนหรือสมบูรณ์แบบ
บุคคลสำคัญที่มีกรุ๊ปเลือดเอ ได้แก่ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์, จอร์ช ดับเบิลยู บุช, โอเจซิมป์สัน,
บริตนีย์ สเปียส์, ริชาร์ด นิกสัน, อลัน อันดา เป็นต้น
สุขภาพร่างกายทั่วไป
ผู้ที่มีกรุ๊ปเลือดเอและมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง จะมีสุขภาพสมสัดส่วน กล้ามเนื้อฟิตและแข็งแรง
เพราะมีระบบการเผาผลาญที่ทำงานได้ดีเป็นปกติ และมีระบบภูมิคุ้มกันร่างกายที่แข็งแรง
ส่วนระบบการย่อยอาหารนั้นชาวกรุ๊ปเลือดเอมีกรดในกระเพาะน้อย จึงเหมาะแก่การรับประทานอาหารมังสวิรัติ
สำหรับชาวกรุ๊ปเลือดเอที่ประสบปัญหาเรื่องสุขภาพไม่แข็งแรง
โดยส่วนใหญ่ชาวกรุ๊ปเลือดเอมักจะเสียงต่อโรคหัวใจ โรคมะเร็ง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
จนไปถึงโรคภัยเล็กๆ อย่างไข้หวัด และน้ำหนักเกิน สาเหตุความเจ็บป่วยเหล่านี้เกิดจากการรับประทานอาหาร
ที่ไม่เหมาะกับกรุ๊ปเลือด เช่น อาจจะรับประทานโปรตีนจากเนื้อสัตว์สูง ซึ่งทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ลำบาก
ทำให้เลือดลำเลียงอาหารไปยังเซลล์อวัยวะในร่างกายได้น้อย ภูมิต้านทานลดลง จึงเสี่ยงต่อโรคภัยมากขึ้น
หากคุณพบว่าตัวเองมีอาการดังต่อไปนี้ ปวดศีรษะบ่อยๆ ปัญหาเรื่องผิวพรรณ เช่น สิว ผื่นคัน
ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น ความดันโลหิตต่ำ อุจจาระมีกลิ่นเหม็นผิดปกติ อาการเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า
สุขภาพร่างกายของคุณเริ่มมีปัญหา หรืออาจเป็นอาการบ่งบอกถึงโรคบางโรคได้
การรับประทานอาหารแบบมังสวิรัติ ซึ่งเน้นรับประทานผัก ผลไม้ ปลา โปรตีนจากเต้าหู้
จะช่วยให้ร่างกายปลอดโรคและช่วยรักษาน้ำหนักให้คงที่ เนื่องจากระบบย่อยอาหารสามารถทำงานได้ดี
และเลือดสามารถส่งต่อสารอาหารไปยังอวัยวะของร่างกายได้ครบถ้วน
โภชนาการสำหรับชาวกรุ๊ปเลือดเอ
การรับประทานอาหารแบบมังสวิรัติ รับประทานธัญพืช ผัก ผลไม้ ปลา เต้าหู้ เป็นพื้นฐาน
เป็นอาหารที่เหมาะสมสำหรับกรุ๊ปเลือดเอเป็นอย่างยิ่ง เนื่องด้วยชาวกรุ๊ปเลือดเอมีกรดในกระเพาะน้อย
และไม่สามารถย่อยหรือเผาผลาญโปรตีนสูงจากสัตว์ได้เพียงพอ หรือแม้แต่การรับประทาน
อาหารจำพวกผลิตภัณฑ์นมทำให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดี และอาจนำมาซึ่งการแพ้อาหาร
รวมถึงผลิตภัณฑ์จากนมได้ด้วย การเน้นรับประทานผัก ปลา จึงเป็นอาหารที่เหมาะสมที่สุด
สำหรับชาวกรุ๊ปเลือดเอ และช่วยการลดน้ำหนักได้ผลสำเร็จ
โภชนาการอาหารสำหรับชาวกรุ๊ปเลือดเอนั้น สามารถแบ่งแยกออกเป็นหมวดหมู่ได้ดังนี้
1. หมวดแป้งและคาร์โบไฮเดรต
อาหารที่เหมาะสม : ผลิตภัณฑ์จากข้าว บะหมี่โซบะ แป้ง ข้าวไรย์ แป้งข้าวโอ๊ต ขนมปังข้าวโอ๊ต
อาหารที่รับประทานได้บางโอกาส : ข้าวบาร์เลย์ แป้งข้าวโพด คอร์นเฟลก ป๊อปคอร์น
ขนมปังข้าวไรย์ แป้งข้าวสาลี ขนมปังโฮลวีต ข้างฟ่าง มัฟฟินข้าวโพด
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง : อิงลิชมัฟฟิน จมูกข้าวสาลี
2. หมวดเนื้อสัตว์
อาหารที่เหมาะสม : ไม่มี (เนื่องจากกรดในกระเพาะย่อยอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ได้ยาก)
อาหารที่รับประทานได้บางโอกาส : ไก่ ไก่งวง นกกระจอกเทศ ห่าน นกพิราบ
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง : เนื้อวัว แกะ เป็ด ห่าน หมู เบคอน แฮม กระต่าย กวาง เครื่องในสัตว์
3. หมวดอาหารทะเล
อาหารที่เหมาะสม : แซลมอน ปลาเนื้อขาว หอยทาก ปลาเทราต์ทะเล ปลาซาร์ดีน
ปลาเรนโบว์เทราต์ ปลากะพงแดง ปลาแมคเคอเรล ปลาค็อด ปลาซิล ปลาอินทรี
อาหารที่รับประทานได้บางโอกาส : ปลาจะละเม็ด ปลากะพง ปลาจวด ปลาทับทิม
ปลากระบอก ปลาฉลาม ปลาดาบ ปลาหางเหลือง ปลาเนื้ออ่อน
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง : ปลาไหล ปลาลิ้นหมา ปลาแมว ปลาน้ำดอกไม้
ปลาหมึกยักษ์ ปลาหมึก กุ้ง หอยนางลม หอยตลับ หอยแมลงภู่ ปลาเฮอร์ริ่ง
ลอบสเตอร์ กบ ปลาดุก คาเวียร์
4. หมวดไขมัน
อาหารที่เหมาะสม : น้ำมันเมล็ดลิน (เมล็ดเฟลกซ์) น้ำมันสกัดจากวอลนัต น้ำมันมะกอก
อาหารที่รับประทานได้บางโอกาส : น้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันงา น้ำมันเมล็ดทานตะวัน
น้ำมันจากดอกคำฝอย น้ำมันตับปลา น้ำมันคาโนลา น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง : น้ำมันข้าวโพด น้ำมันถั่วลิสง น้ำมันมะพร้าว น้ำมันละหุ่ง
5. หมวดนม เนย และไข่
อาหารที่เหมาะสม : ไม่มี (เนื่องจากทำให้ระบบเมตาบอลิซึมทำงานช้า ทำให้อ้วนง่าย)
อาหารที่รับประทานได้บางโอกาส : ไข่เป็ด ไข่ไก่ นมแพะ เนยแข็งจากแพะ ซาวครีมไร้ไขมัน โยเกิร์ต
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง : เนย ครีมชีส เนยแข็งอีดัม เนยแข็งกัวดา นมวัว เชอร์เบต ไอศกรีม
และอาหารที่ประกอบด้วยนมวัว
6. หมวดผักและผลไม้
อาหารที่เหมาะสม : คะน้า บร็อกโคลี ถั่วงอกอัลฟัลฟา ผักโขม ฟักทอง พาสลีย์ กระเทียม
แครอต เชเลอรี กระเจี๊ยบ ผักกาดแก้ว หอมหัวใหญ่ เห็ดแชมปิญอง สับปะรด พรุน พลัม
แอพริคอต แบล็กเบอร์รี เชอร์รี บลูเบอร์รี ฟิกส์ ส้มโอเทศ มะนาว เลมอน
อาหารที่รับประทานได้บางโอกาส : หน่อไม้ฝรั่ง หน่อไม้ อะโวคาโด ผักกาด ข้าวโพด แตงกวา
ยี่หร่า ผักกาดหอม ถั่วงอก หอมแดง สาหร่าย เผือก ซูกินิ วอเตอร์เครส สโนว์พี มะกอกเขียว
เห็ดเข็มทอง เห็ดหูหนู เห็ดร่ม ดอกกำหล่ำ กีวี แตงโม ฝรั่ง องุ่น อินทผลัม ลูกเกด ราสป์เบอร์รี
แคนตาลูป มะเฟือง แอปเปิล สตรอว์เบอรี พีช ลูกแพร์ สาลี่
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง : มันฝรั่ง มันเทศ มะเขือเทศ มะเขือยาว กะหล่ำปลี เห็ดชิตาเกะ
มะกอกดำ มันแกว มะละกอ กล้วย ส้ม มะม่วง แตงฮันนี่ดิว มะพร้าว
7. หมวดถั่วและธัญพืช
อาหารที่เหมาะสม : วอลนัต ถั่วลิสง เมล็กฟักทอง เมล็ดเฟลกซ์ ถั่วเหลือง
(รวมถึงผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้ มิโซะ นมถั่วเหลือง เนยจากถั่วเหลือง)
ถั่วลันเตา ถั่วเลนทิล ถั่วปินโตะ ถั่วแบล็กอาย ถั่วดำ
อาหารที่รับประทานได้บางโอกาส : แห้ว อัลมอนด์ งา เมล็ดทานตะวัน ถั่วเขียว ถั่วงอก
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง : เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วบลาซิล ถั่วลิมา ถั่วเนวี่ ถั่วแดง
8. หมวดเครื่องเทศ
อาหารที่เหมาะสม : กระเทียม ขมิ้น มัสตาร์ด พาสลีย์ ขิง ซอสถั่วเหลือง ฮอร์สแรดิช
อาหารที่รับประทานได้บางโอกาส : ไธม์ ยีสต์ บริเวอร์ยีสต์ น้ำตาลทรายขาว/น้ำตาลทรายแดง
เกลือทะเล โรสแมรี เปปเปอร์มินต์ ออริกาโน พริกหยวก ใบสะระแหน่ น้ำผึ้ง แป้งข้าวโพด
มะขามเปียก ผักชี ต้นหอม อบเชย มะกรูด กะเพรา ใบกระวาน วานิลลา แยมผลไม้
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง : ซอสมะเขือเทศ ผักผลไม้ดอง มายองเนส ผงชูรส น้ำส้มสายชู
เจลลาติน พริกป่น พริกไทย
9. หมวดเครื่องดื่ม
เครื่องดื่มที่เหมาะสม : ชาเขียว กาแฟ ไวน์แดง ชาสกัด อัลฟัลฟา น้ำว่านหางจระเข้
ชาคาโมมายล์ ชาขิง น้ำขิง ชาแปะก๊วย โสมไซบีเรียน ชาโรสฮิปส์ ชาสกัดใบกะเพรา
เครื่องดื่มที่ดื่มได้บางโอกาส : ไวน์ขาว ชาไธม์ ชาเสจ ชาสกัดจากใบราสป์เบอร์รี
ชาเปปเปอร์มินต์ น้ำตังกุย ชารากชะเอม
เครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยง : น้ำแร่ เบียร์ เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ น้ำโซดา ชาดำ
การควบคุมดูแลน้ำหนักของคนกรุ๊ปเลือดเอ
น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นไม่เพียงแต่ทำให้รูปร่างคุณดูไม่ได้สัดส่วน ไม่สวยงามแล้ว ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคภัยต่างๆ ด้วย
การควบคุมดูแลน้ำหนักเป็นเรื่องสำคัญ แต่ปัญหาน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นจะไม่เกิด
ถ้าหากคุณรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือดเอที่ได้แนะนำไว้ตั้งแต่ข้างต้น
การลดน้ำหนักหรือการรักษาน้ำหนักให้คงที่นั้น คุณควรลดปริมาณการรับประทานโปรตีนจากเนื้อสัตว์ลง
เพราะคุณทราบแล้วว่ากรุ๊ปเลือดของคุณนั้นมีกรดในกระเพาะอาหารน้อย ทำให้ย่อยโปรตีนจากสัตว์ได้ไม่ดีพอ
จึงเป็นเหตุให้ชะลอการทำงานของระบบเมตาบอลิซึม ทำให้เกิดการสะสมของไขมันในร่างกาย
วิธีที่จะช่วยเป็นแนวทาง เพื่อให้คุณลดน้ำหนักได้ผลสำเร็จและได้ผลเร็วนั้น คุณสามารถทำตามวิธีแนะนำทั้ง 7 วิธีได้ดังนี้
1.รับประทานอาหารแบบมังสวิรัติ
ชาวกรุ๊ปเลือดเอ เหมาะสำหรับการรับประทานอาหารมังสวิรัติ เพราะทำให้ระบบการย่อยอาหารทำงาน
สะดวกและระบบการเผาผลาญพลังงานของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ทำให้เกิดการสะสมไขมันร่างกายน้อย
คุณก็ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักอีกต่อไป
2. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อการลดน้ำหนัก
อาหารที่ช่วยลดน้ำหนักสำหรับกรุ๊ปเลือดเอ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ถั่วเหลือง เต้าหู้ สับปะรด ผักใบเขียว
บร็อกโคลี่ คะน้า และผลไม้ตระกูลเบอร์รี เช่น บลูเบอร์รี แครนเบอร์รี รวมถึงน้ำมันที่มีประโยชน์อย่างน้ำมันมะกอก
ช่วยให้ระบบการไหลเวียนโลหิตทำงานดี ป้องกันการเกิดเซลลูไลต์
3. อย่าอดอาหารหรือรับประทานน้อยเกินไป
วิธีการอดอาหารหรือการรับประทานอาหารน้อยเกินไป ทำให้คุณหิวมากและรับประทานมากขึ้นในมื้อต่อไป
การอดอาหารยังทำให้การทำงานของระบบเมตาบอลิซึมลดลง
และทำให้สูญเสียน้ำในร่างกาย ไขมันสะสม ทำให้ลดน้ำหนักได้ยาก
4. ดื่มน้ำให้มาก
การดื่มน้ำเป็นการกระตุ้นให้ระบบเมตาบอลิซึมทำงานได้เร็วขึ้น ในแต่ละวันร่างกายของเราต้องการน้ำ
เพื่อรักษาความสมดุลวันละ 2 ลิตรหรือประมาณ 8 แก้ว
การดื่มน้ำเปล่า ชาสมุนไพร หรือน้ำผลไม้ ล้วนแต่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
5. งดโปรตีนจากเนื้อสัตว์
เนื้อสัตว์นอกจากเนื้อไก่แล้วควรลดปริมาณ หรือหากหลีกเลี่ยงได้ยิ่งดี เพราะเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อแกะ
ทำให้ระบบการย่อยอาหารทำงานลำบาก ย่อยได้มาก ระบบเมตาบอลิซึมทำงานช้า ทำให้เกิดไขมันสะสมและอ้วนได้ง่าย
6. ลดความเครียด
ชาวกรุ๊ปเลือดเอ เป็นคนที่เครียดได้ง่าย เมื่อเครียดจะทำให้คุณหิวและอยากอาหารเพิ่มขึ้น
ทำให้รับประทานอาหารมากขึ้น การลดความเครียดจึงเป็นวิธีการกำจัดปัญหาน้ำหนักส่วนเกินและปัญหาภายในจิตใจ
7. ออกกำลังกายเป็นประจำ
การออกกำลังกายเป็นวิธีช่วยลดน้ำหนักได้ผลดีที่สุด ช่วยเปลี่ยนไขมันสะสมในร่างกายให้เป็นกล้ามเนื้อ
เมื่อร่างกายมีกล้ามเนื้อมาก การสะสมไขมันก็ลดลง
นอกจากนี้ยังช่วยลดความเครียดซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำหนักเพิ่ม
เมนูอาหารแนะนำสำหรับลดน้ำหนัก 7 วัน
การลดน้ำหนักให้ได้ผลเร็วทันใจนั้น คุณควรรับประทานอาหารที่เอื้ออำนวยต่อระบบการย่อยอาหาร
และระบบเมตาบอลิซึม เพื่อทำให้อาหารเปลี่ยนไปเป็นพลังงานได้เร็วขึ้น และลดการสะสมของไขมัน
โปรแกรมการรับประทานอาหารเพื่อลดน้ำหนัก คุณควรจะวางแผนการรับประทานอาหารดังต่อไปนี้และออกกำลังกายเป็นประจำ
1. เน้นการรับประทานผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้ นมถั่วเหลือง ควรรับประทาน 2 ครั้งต่อวัน
2. รับประทานปลา (ที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือด) 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
3. ไข่ 2 ฟองต่อสัปดาห์
4. รับประทานเนื้อไก่ไม่ติดมัน 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
5. รับประทานผักและผลไม้ 2-3 ครั้งต่อวัน
6. ไขมันที่ดีต่อเลือด เช่น น้ำมันมะกอก 1 ครั้งต่อวัน
7. ถั่วและธัญพืช 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
ตัวอย่างเมนูอาหารแนะนำสำหรับลดน้ำหนัก 7 วัน
วันที่ 1
เมนูอาหารเช้า | |||
คอร์นเฟล็กผสมนมถั่วเหลือง | 1 | ถ้วย | |
แอปเปิ้ล | 1 | ผล | |
เมนูอาหารกลางวัน | |||
บะหมี่โซบะผัดเต้าหู้ | 1 | จาน | |
สับปะรด | 4-5 | ชิ้น | |
ชาเขียวไม่หวาน | 1 | แก้ว | |
เมนูอาหารเย็น | |||
ข้าวกล้อง | 1 | จาน | |
ปลากะพงแดงนึ่ง | 1 | ตัว | |
บร็อกโคลี่ลวก | 1 | ถ้วย | |
วันที่ 2
เมนูอาหารเช้า | |||
กาแฟ | 1 | แก้ว | |
ไข่ต้ม | 1 | ฟอง | |
บลูเบอร์รี่ | 1.5 | ถ้วย | |
เมนูอาหารกลางวัน | |||
ข้าวผัดปลาซาร์ดีน | 1 | จาน | |
ผักกาดหอม | 1 | ถ้วย | |
แคนตาลูป | 1-2 | ถ้วย | |
ชาเขียวไม่หวาน | 1 | แก้ว | |
เมนูอาหารเย็น | |||
ปลาแซลมอนย่าง | 1 | ชิ้น | |
บร็อกโคลี แครอทลวก | 1 | ถ้วย | |
นมถั่วเหลือง | 1 | แก้ว | |
วันที่ 3
เมนูอาหารเช้า | |||
ข้าวต้มปลา | 1 | ชาม | |
ชาเขียวไม่หวาน | 1 | แก้ว | |
เมนูอาหารกลางวัน | |||
ข้าวผัดสับปะรด | 1 | จาน | |
ถั่วลันเตา | 1 | ถ้วย | |
ชาเขียวไม่หวาน | 1 | แก้ว | |
เมนูอาหารเย็น | |||
สลัดแซลมอนรมควัน | 1 | ชิ้น | |
สลัดผักใบเขียว | 1 | ถ้วย | |
น้ำขิงไม่หวาน | 1 | แก้ว | |
วันที่ 4
เมนูอาหารเช้า | |||
โยเกิร์ต | 1 | ถ้วย | |
สับปะรด | 4-5 | ชิ้น | |
น้ำสับปะรด | 1 | แก้ว | |
เมนูอาหารกลางวัน | |||
ข้าวผัดผักคะน้า (ไม่ใส่เนื้อสัตว์) | 1 | จาน | |
มัฟฟินข้าวโพด | 1 | ชิ้น | |
ชาเขียวไม่หวาน | 1 | แก้ว | |
เมนูอาหารเย็น | |||
ข้าวกล้อง | 1 | จาน | |
อกไก่ย่าง | 1 | ชิ้น | |
สลัดถั่วฝักยาว | 1 | ถ้วย | |
วันที่ 5
เมนูอาหารเช้า | |||
ขนมปังข้าวโอ๊ตทาเนยถั่ว | 2 | แผ่น | |
กาแฟไม่หวาน | 1 | แก้ว | |
ไข่ต้ม | 1 | ฟอง | |
เมนูอาหารกลางวัน | |||
ยำปลาทูกับผักกาดหอม | 1 | จาน | |
ข้าวสวย | 1 | ถ้วย | |
ชาคาโมมายล์ | 1 | แก้ว | |
เมนูอาหารเย็น | |||
สลัดผลไม้ราดซอสโยเกิร์ต | 1 | จาน | |
น้ำสับปะรด | 1 | แก้ว | |
วันที่ 6
เมนูอาหารเช้า | |||
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ | 0.5 | ถ้วย | |
โยเกิร์ตไขมันต่ำ | 1 | ถ้วย | |
ชาขิงไม่หวาน | 1 | แก้ว | |
เมนูอาหารกลางวัน | |||
ก๋วยเตี๋ยวไก่ | 1 | ชาม | |
แตงโม | 0.5 | ถ้วย | |
ชาเขียวไม่หวาน | 1 | แก้ว | |
เมนูอาหารเย็น | |||
ปลาเนื้อขาวผัดขิง | 1 | จาน | |
ข้าวสวย | 1 | ถ้วย | |
น้ำลูกพรุน | 1 | แก้ว | |
วันที่ 7
เมนูอาหารเช้า | |||
แซนด์วิชทูน่าใส่ถั่วงอกอัลฟัลฟา | 1 | ชิ้น | |
นมถั่วเหลือง | 1 | แก้ว | |
อะโวคาโด | 1 | ผล | |
เมนูอาหารกลางวัน | |||
เส้นหมี่ผัดผักรวม | 1 | จาน | |
ชาใบแปะก๊วยหรือชาสมุนไพรไม่หวาน | 1 | แก้ว | |
องุ่น | 0.5 | ถ้วย | |
เมนูอาหารเย็น | |||
ปลาเทราต์ย่าง | 1 | ตัว | |
เผือกต้ม | 1 | หัว | |
สลัดผัก | 1 | จาน | |
น้ำสับปะรด | 1 | แก้ว | |
ก่อนเริ่มต้นลดน้ำหนักวิธีที่จะทำให้เห็นผลดีที่สุด ควรจะต้องทำการล้างสารพิษ เพื่อทำความสะอาดสารพิษ
ที่ตกค้างสะสมซึ่งจะคอยขัดขวางการทำงานของกระบวนการลดน้ำหนัก ทำให้ลดน้ำหนักได้ช้า และมักไม่ค่อยเห็นผล
การล้างสารพิษ ขอแนะนำให้ทำ 2 วันต่อเนื่องกันดังนี้
วันที่ 1 เลือกรับประทานผลไม้สด 1 อย่าง หรือผสมกันดังนี้ ฝรั่ง ชมพู่
สับปะรดไม่หวาน แตงไม่หวาน 3 มื้อ เช้า กลางวัน เย็น ปริมาณมื้อละ 1 จานขนาดกลาง
วันที่ 2 เลือกรับประทานผักที่เหมาะสมตามกรุ๊ปเลือดทั้งผักสด
และผักต้มหรือลวก 3 มื้อ เช้า กลางวัน เย็นปริมาณมื้อละ 1 จานขนาดกลาง
แล้วจึงเริ่มลดน้ำหนักโดยรับประทานอาหารตามเมนูที่จัดมาให้นี้
พร้อมกับรับประทานยาสมุนไพรครั้งละ 2 แคปซูล หลังอาหารเช้า-กลางวัน-เย็น พร้อมน้ำสะอาด 1-2 แก้ว
(ปรับจากการรับประทานหลังอาหารตามฉลาก เป็นรับประทานก่อนอาหาร ตามความเหมาะสม)
วิตามินและเกลือแร่เพื่อสุขภาพและความอ่อนเยาว์
สารอาหารที่คุณรับประทานในแต่ละวันนั้น ระบบการย่อยอาหารจะย่อยและแยกอาหาร
โดยมีเลือดเป็นตัวกลางนำสารอาหารไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย
ดังนั้นหากคุณรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ และเป็นอาหารที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือด
ประกอบกับออกกำลังกายเป็นประจำ คุณก็จะมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงและดูอ่อนวัย
การที่คุณจะมีสุขภาพดีและอ่อนวัยนั้น คุณควรแน่ใจว่าคุณได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ
และสารอาหารเหล่านั้นดีต่อกรุ๊ปเลือดของคุณ คุณควรเลือกรับประทานจากแหล่งอาหารโดยตรง
แต่ถ้าไม่สามารถรับประทานวิตามินและเกลือแร่ที่อยู่ในรูปของอาหารเสริม
วิตามินและเกลือแร่ที่ช่วยรักษาสุขภาพและความอ่อนวัยให้แก่คนกรุ๊ปเลือดเอ ได้แก่
วิตามินซี
ประโยชน์ : มีสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคมะเร็ง และชะลอความชรา
แหล่งอาหาร : บร็อคโคลี ผักโขม วอเตอร์เครส สตรอว์เบอร์รี ฝรั่ง กีวี เลมอน
ปริมาณที่ควรรับประทาน : 500 มิลลิกรัมต่อวัน หรือ 1,000 ไอยูต่อวัน
วิตามิน บี6
ประโยชน์ : ผลิตเฮโมโกลบิน โปรตีน ช่วยเสริมฤทธิ์ให้วิตามิน บี9 (กรดโฟเลต)
แหล่งอาหาร : บริเวอร์ยีสต์ เมล็ดทานตะวัน ข้าว ถั่วเหลือง แซลมอน
ปริมาณที่ควรรับประทาน : 300 ไมโครกรัมต่อวัน
วิตามิน บี12
ประโยชน์ : ทำงานร่วมกับวิตามิน บี9 ช่วยป้องกันโรคภาวะโลหิตจาง ลดความเหนื่อยล้า ความเครียด
แหล่งอาหาร : ไก่ ไก่งวง สาหร่ายทะเล ไข่ ปลาซาร์ดีน
ปริมาณที่ควรรับประทาน : 400-500 ไมโครกรัมต่อวัน
กรดโฟลิก
ประโยชน์ : ทำงานร่วมกับวิตามิน บี12 เพื่อแยก DNA RNA
(เป็นยีนส์ที่ควบคุมหน้าที่การทำงานของส่วนต่างๆ ในร่างกาย) ผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงในไขกระดูก
แหล่งอาหาร : บริเวอร์ยีสต์ ถั่วเหลือง ถั่วเลนทิล บร็อกโคลี หน่อไม้ฝรั่ง
ปริมาณที่ควรรับประทาน : 500-600 ไมโครกรัมต่อวัน
วิตามินอี
ประโยชน์ : มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยให้ระบบเลือดไหลเวียนดี
เพิ่มออกซิเจนในสมอง ป้องกันเส้นเลือดขอด รักษาความอ่อนวัย
แหล่งอาหาร : อัลมอนด์ น้ำมันถั่วลิสง จมูกข้าวสาลี เมล็ดทานตะวัน
ปริมาณที่ควรรับประทาน : 400 ไอยูต่อวัน
สังกะสี
ประโยชน์ : มีสารต้านอนุมูลอิสระ รักษาสายตา ป้องกันการเกิดสิว
บำรุงเล็บ เสริมสร้างภูมิต้านทานร่างกาย
แหล่งอาหาร : ไก่งวง งา เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน จมูกข้าวสาลี
ปริมาณที่ควรรับประทาน : 25 มิลลิกรัมต่อวัน
แคลเซียม
ประโยชน์ : ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานดี
แหล่งอาหาร : งา ซาร์ดีนพร้อมกระดูกอ่อน เต้าหู้ อัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน
ปริมาณที่ควรรับประทาน : 500-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
ธาตุเหล็ก
ประโยชน์ : ผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง เอนไซม์ สร้างภูมิต้านทานโรค ป้องกันภาวะโลหิตจาง
บำรุงรักษาผิว ผม และเล็บให้แข็งแรง โดยเฉพาะกรุ๊ปเลือดเอมักจะขาดธาตุเหล็ก
แหล่งอาหาร : สาหร่าย เมล็ดฟักทอง งา จมูกข้าวสาลี ถั่วเลนทิล วอลนัต ฟิกส์
ปริมาณที่ควรรับประทาน : 50 มิลลิกรัมต่อวัน
การออกกำลังกายสำหรับชาวกรุ๊ปเลือดเอ
คนที่มีกรุ๊ปเลือดเอ เหมาะกับการออกกำลังกายแบบเบาๆ เพื่อให้เหมาะกับอาหารที่รับประทาน
เนื่องจากอาหารที่คนกรุ๊ปเลือดเอรับประทานส่วนใหญ่จะเป็นโปรตีนจากเต้าหู้ ถั่วเหลือง
ผัก ผลไม้ การออกกำลังกายจึงไม่จำเป็นต้องหนักหน่วงเหมือนชาวกรุ๊ปเลือดโอ
การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยให้ชาวกรุ๊ปเลือดเอลดน้ำหนักได้ดี และช่วยให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว
ยังเป็นทางออกที่ดีสำหรับการบรรเทาความเครียด โดยเน้นการออกกำลังกายแบบเบาๆ
และทำให้จิตใจสงบ เช่น โยคะ ไทเก๊ก หรือการเดิน
สำหรับชาวกรุ๊ปเลือดเอ ควรออกกำลังกายอาทิตย์ละ 2-4 ครั้ง เป็นอย่างน้อย
เพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง และรักษาน้ำหนักให้คงที่ และก่อนออกกำลังกายทุกครั้งควรอบอุ่นร่างกาย
ประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพและป้องกันการเจ็บปวดกล้ามเนื้อ
ตัวอย่างการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับกรุ๊ปเลือด
ประเภทการออกกำลังกาย | ระยะเวลา (นาที) |
ความถี่ (วัน/สัปดาห์) |
ไทเก๊ก | 30-40 | 3-4 |
หัตถโยคะ | 50-60 | 3-4 |
ว่ายน้ำ | 30-40 | 2-3 |
เดินเหยาะๆ | 45 | 2-3 |
แอโรบิกเบาๆ | 30 | 2-3 |
เพลาทีส (Pilates) | 30 | 2-3 |
ขี่จักรยานทางเรียบ | 30 | 2-3 |
การดูแลสุขภาพจิตใจ
ชาวกรุ๊ปเลือดเอเป็นคนที่อ่อนไหวทางอารมณ์ และเป็นคนคิดมาก คาดหวังกับสิ่งที่ทำมากจนเกินไป
ตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้ง่าย และเป็นคนที่ชอบความสมบูรณ์แบบ
สิ่งเหลานี้จึงทำให้ชาวกรุ๊ปเลือดเอเกิดความเครียดได้มากกว่าคนกรุ๊ปเลือดอื่น
ในขณะที่คุณเครียด ระดับฮอร์โมน คอร์ติซอล (Cortisol) จะสูงขึ้น ทำให้เกี่ยวพันกับสุขภาพร่างกาย
เช่น ระบบเมตาบอลิซึมทำงานไม่สมดุล ระดับการเต้นของหัวใจผิดปกติ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
หรือเร่งการผลิตอินซูลินมากขึ้น ซึ่งอาการเหล่านี้ส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งสิ้น
วิธีการบรรเทาความเครียดที่เหมาะสมกับคนกรุ๊ปเลือดเอ ได้แก่
· หลีกเลี่ยงการอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย เมื่อคุณรู้สึกว่าตนเองรู้สึกไม่สบายใจหรือเครียด
ควรพูดคุยกับคนที่สนิท หรือคนที่คุณไว้ใจจะช่วยบรรเทาความเครียดให้คุณได้มาก
· นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ช่วยให้สมองแจ่มใสและรักษาอารมณ์ให้ปกติ
· อย่าทำงานหนักเกินไป รู้จักบริหารเวลา และเบรกงานช่วงระหว่างพัก
· งดการรับประทานน้ำตาล อาหารจำพวกแป้ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาเฟอีน และการสูบบุหรี่
· ฟังเพลงเบาๆ เพื่อช่วยให้จิตใจสงบ
· หากคุณเครียดมากจนนอนไม่หลับ ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อแพทย์จะได้จัดยาที่ช่วยเพิ่ม
ระดับฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) เพื่อคลายความเครียดและความวิตกกังวล
ขอขอบคุณ ที่มาของข้อมูล โดย http://www.slim-detox.net/